วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

อำเภอในจังหวัดภูเก็ต

อำเภอกะทู้ เป็นอำเภอหนึ่งในสามอำเภอของจังหวัดภูเก็ต
File:Amphoe 8302.svg

ที่ตั้งและอาณาเขต[แก้]

อำเภอกะทู้มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอข้างเคียง ดังนี้

ที่มาของชื่อ[แก้]

อำเภอกะทู้สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากคำว่า "กราบาตู" แปลว่า อ่าวหิน แล้วหดลงเป็น "กราตู" แล้วเป็น "กราทู" "กระทู" และ"กะทู" ตามลำดับ ในใบบอกเรื่องการปราบอั้งยี่ของหมื่นเสมอใจราช (พระยามนตรีสุริยวงศ์ ชื่น บุนนาคพ.ศ. 2419 ก็เขียนว่า "กะทู" แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็น กะทู้ เพื่อให้มีความหมายในภาษาไทย และคำนี้ก็อาจจะมาจากคำว่า "กราซาตู" แปลว่า อ่าวที่หนึ่ง ก็ได้
บ้างก็ว่าชื่อดังกล่าวมาจากภาษาจีนคำว่า ล่ายทูไล่ทู หรือไนทู[1]

ประวัติ[แก้]

เมื่อศัตรูเข้าโจมตีเมืองถลางแตกในปี พ.ศ. ๒๓๕๒ พญาถลางเจ๊ะมะเจิมได้ย้ายเมืองถลางจากบ้านเคียน (ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง) มาตั้งที่ทำการอยู่ที่บ้านท่าเรือ(ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง)แล้ว บุตรชายคือพญาวิชิตสงคราม(แก้ว)ไปเป็นเจ้าเมืองภูเก็ตอยู่ที่บ้านเก็ตโฮ่ (ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้) พระยาวิชิตสงคราม (ทัด) ย้ายเมืองภูเก็ตไปตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งคาปากคลองบางใหญ่ เพื่อเป็นคลังแร่ดีบุกที่ขนย้ายมาจากเมืองภูเก็จที่เก็ตโฮ่และส่งไปต่างประเทศจากท่าเรือที่สะพานหิน เมืองภูเก็จที่เก็ตโฮ่เป็นลานแร่ดีบุกที่ต้องใช้กุลีจำนวนมากเพราะเหมืองแร่พัฒนาจากเหมืองบ่อไปเป็นเหมืองหาบ กุลีชาวจีนฮกเกี้ยนจึงเข้ามามากในสมัยรัชกาลที่ ๔ - ๕ เมื่อรัชกาลที่ ๕ ทรงปรับปรุงระบบราชการ ได้แบ่งเมืองภูเก็จไปเป็นอำเภอทุ่งคาและเมืองภูเก็จบ้านเก็ตโฮ่เป็นอำเภอกะทู้

ประชากร[แก้]

ประชากรในอำเภอกะทู้ มีหลายชาติพันธุ์ มีชาวจีนกลุ่มต่าง ๆ อาศัยอยู่จำนวนมาก ชาวจีนกวางตุ้ง ไหหลำ ฮกเกี้ยน เปอรานากัน(Peranakan) โดยส่วนมากเป็นชาวจีนฮกเกี้ยน และเปอรานากัน ที่มาปักหลักฐานอยู่เมื่อสมัยเหมืองแร่ดีบุก และยังมีชาวมอญ ที่อาศัยอยู่บริเวณป่าตองแต่มีจำนวนน้อยกว่าชาวจีน

การแบ่งเขตการปกครอง[แก้]

การปกครองส่วนภูมิภาค[แก้]

อำเภอกะทู้แบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 3 ตำบล 14 หมู่บ้าน ได้แก่
1.กะทู้(Kathu)8 หมู่บ้าน
2.ป่าตอง(Pa Tong)-
3.กมลา(Kamala)6 หมู่บ้าน
แผนที่ตำบล

การปกครองส่วนท้องถิ่น[แก้]

ท้องที่อำเภอกะทู้ประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 3 แห่ง ได้แก่

ทรัพยากรทางการท่องเที่ยว[แก้]

  • ศาลเจ้ากะทู้ (ไลทูเต๊าบูเก๊ง) มีเลาเอี๋ยเป็นเทพประธานประจำศาลเจ้า เป็นศาลเจ้าแรกที่ประกอบพิธีการกินผัก (เจี๊ยะฉ่าย) มาก่อน 180 ปี
  • น้ำตกกะทู้ ไหลจากเขาหว้าซึ่งเป็นควนเขาสูงอันดับที่ 2 ของจังหวัดภูเก็ต
  • พิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ เปิดในวันทำการราชการ แสดงนิทรรศการการทำเหมืองแร่เหมืองรู เหมืองปล่อง เหมืองแล่น เหมืองหาบ เหมืองสูบ-ฉีด เหมืองเรือขุด มีแร่ดีบุก โลหะดีบุก แทนทาลัม และวิถีชีวิตของชาวกะทู้                                                                                                                                                                                    อำเภอถลาง อำเภอหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต                                                                                                        File:Amphoe 8303.svg

    ที่ตั้งและอาณาเขต[แก้]

    อำเภอถลางมีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอข้างเคียง ดังนี้

    ประวัติ[แก้]

    พื้นที่เดิมของเกาะถลาง หรือ เกาะภูเก็ต ในแผนที่ของคลอดิอุส ปโตเลมี ประมาณ พ.ศ. 700 ระบุไว้ในชื่อ JUNK CEYLON เมื่อครั้งที่หลวงจีนอี้จิงเดินทางผ่านไปสืบพระพุทธศาสนาเรียกบริเวณนี้เป็น SILAN เปลี่ยนเสียงเป็น สลาง ในสมัยสุโขทัย มีปรากฏในจดหมายเหตุไทย - ฝรั่งเศส เป็น Jun Salon ฝ่ายเอกสารไทยใช้ ฉลาง มาจนถึงรัชกาลที่ 3 จึงมีปรากฏคำ ถลาง แทนชื่ออื่นทั้งหมด
    ในหัวเมืองฝั่งทะเลตะวันตกของภาคใต้มีศูนย์กลางปกครองที่เมืองถลาง เจ้าเมืองถลางจะได้รับโปรดเกล้าฯเป็นผู้สำเร็จราชการแปดหัวเมือง (เมืองกระ เมืองคุระ เมืองคุรอด เมืองตะกั่วป่า เมืองตะกั่วทุ่ง (บางคลี) เมืองกราภูงา เมืองภูเก็จ และเมืองถลาง)
    ศูนย์กลางการปกครองเมืองถลางในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ อยู่ที่บ้านลิพอน (ตำบลศรีสุนทร)มีพญาถลางคางเสงเป็นเจ้าเมือง ย้ายไปอยู่ที่บ้านดอน (ตำบลเทพกระษัตรี)มีพญาถลางจอมเฒ่าบ้านดอนเป็นเจ้าเมือง และเกาะบ้านเคียน (ตำบลเทพกระษัตรี) ในสมัยกรุงธนบุรี มีพญาถลางจอมรั้งบ้านเคียน พญาถลางอาด พญาถลางชู พญาสุรินทราชาพิมลอัยาขัน เป็นเจ้าเมือง พ.ศ. ๒๓๒๙ มีพญาเพชรคีรีศรีพิชัยสงครามรามคำแหง(เทียน ประทีป ณ ถลาง) เป็นเจ้าเมือง ถัดไปเป็นพระยาถลางฤกษ์ (จันทโรจวงศ์) พญาถลางทับ พญาถลางคิน และพญาถลางชู(เจ้าเมืองถลางคนสุดท้าย)
    อำเภอถลางในอดีตเป็นเมืองของสองวีรสตรีท้าวเทพกระษัตรี และ ท้าวศรีสุนทร เดิมเรียกว่า อำเภอเมืองถลาง มีเจ้าเมืองปกครองเรียกว่า พระยาถลาง ได้จัดตั้งเป็นอำเภอ เมื่อปี พ.ศ. 2441

    การแบ่งเขตการปกครอง[แก้]

    การปกครองส่วนภูมิภาค[แก้]

    อำเภอถลางแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 6 ตำบล 46 หมู่บ้าน
    1.เทพกระษัตรี(Thep Krasattri)11 หมู่บ้าน
    2.ศรีสุนทร(Si Sunthon)8 หมู่บ้าน
    3.เชิงทะเล(Choeng Thale)6 หมู่บ้าน
    4.ป่าคลอก(Pa Khlok)9 หมู่บ้าน
    5.ไม้ขาว(Mai Khao)7 หมู่บ้าน
    6.สาคู(Sakhu)5 หมู่บ้าน
     แผนที่

    การปกครองส่วนท้องถิ่น[แก้]

    ท้องที่อำเภอถลางประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 8 แห่ง ได้แก่
    • เทศบาลตำบลเชิงทะเล ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลเชิงทะเล
    • เทศบาลตำบลเทพกระษัตรี ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลเทพกระษัตรี
    • เทศบาลตำบลศรีสุนทร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลศรีสุนทรทั้งตำบล
    • เทศบาลตำบลป่าคลอก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลป่าคลอกทั้งตำบล
    • องค์การบริหารส่วนตำบลเทพกระษัตรี ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเทพกระษัตรี (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลเทพกระษัตรี)
    • องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเชิงทะเล (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลเชิงทะเล)
    • องค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว ครอบคลุมพื้นที่ตำบลไม้ขาวทั้งตำบล
    • องค์การบริหารส่วนตำบลสาคู ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสาคูทั้งตำบล

    สถานที่สำคัญ[แก้]

    • สนามบินภูเก็ต(สนามบินนานาชาติ ภูเก็ต) ตำบลไม้ขาว
    • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง ตำบลศรีสุนทร
    • วนอุทยานสัตว์ป่าเขาพระแทว
    • วัดพระทอง(วัดพระผุด) ตำบลเทพกระษัตรี
    • วัดพระนางสร้าง ตำบลเทพกระษัตรี
    • อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร ตำบลศรีสุนทร
    • อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ตำบลสาคู และตำบลไม้ขาว                                                                                                                                                                                                                             อำเภอเมืองภูเก็ต เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต                                                                                     File:Amphoe 8301.svg
    • ที่ตั้งและอาณาเขต[แก้]

      อำเภอเมืองภูเก็ตมีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอข้างเคียง ดังนี้

      ประวัติ[แก้]

      อำเภอเมืองภูเก็ตเดิมใช้ชื่อว่า เมืองภูเก็จ เป็นเมือง ๑ ใน ๘ หัวเมืองภาคใต้ฝั่งทะเลตะวันตก ปรากฏชื่อเมืองภูเก็จในปลายกรุงศรีอยุธยา และเมื่อพบจดหมายเหตุเมืองถลางที่เก็บรักษาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ จึงปรากฏชื่อเจ้าเมืองภูเก็จ เรียกว่า เมืองภูเก็จ คือบุตรชายของท่านผู้หญิงจัน(ท้าวเทพกระษัตรี) ชื่อพญาเทียน (ต้นนามสกุลประทีป ณ ถลาง) มีบริเวณเมืองอยู่ที่บ้านเกาะแก้ว บ้านบางคู บ้านสะปำ
      เมื่อเมืองถลางถูกศัตรูเข้าโจมตีแตกในปี พ.ศ. ๒๓๕๒ บุตรชายพญาถลางเจ๊ะมะเจิมคือ พญาวิชิตสงคราม(แก้ว) เป็นเจ้าเมืองภูเก็จอยู่ที่บ้านเก็ตโฮ่ (ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้) พระยาวิชิตสงคราม(ทัด) ย้ายเมืองภูเก็จมาที่บ้านทุ่งคาปากคลองบางใหญ่ เมืองภูเก็จเจริญพัฒนาอย่างรวดเร็วเพราะโลกต้องการแร่ดีบุก เมืองภูเก็จต้องการกุลีในเหมืองแร่ กุลีส่วนใหญ่มาจากมณฑลฮกเกี้ยน(ฟูเจี้ยน) ที่ผ่านมาจากสิงคโปร์ มะละกา ปีนัง และมาจากมณฑลฮกเกี้ยนโดยตรงในสมัยพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี(คอซิมบี้ ณ ระนอง)เป็นสมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็จ ชื่อภูเก็จเริ่มหายไปมีภูเก็ตเข้ามาแทนกลายชื่อเป็นเมืองภูเก็ตในเวลาต่อมา
      แต่เดิมอำเภอเมืองภูเก็ตนั้นมีชื่อว่า อำเภอทุ่งคา แต่ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น อำเภอเมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481[1]

      การแบ่งเขตการปกครอง[แก้]

      การปกครองส่วนภูมิภาค[แก้]

      อำเภอเมืองภูเก็ตแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 8 ตำบล 44 หมู่บ้าน ได้แก่
      1.ตลาดใหญ่(Talat Yai)-
      2.ตลาดเหนือ(Talat Nuea)-
      3.เกาะแก้ว(Ko Kaeo)7 หมู่บ้าน
      4.รัษฎา(Ratsada)7 หมู่บ้าน
      5.วิชิต(Wichit)9 หมู่บ้าน
      6.ฉลอง(Chalong)10 หมู่บ้าน
      7.ราไวย์(Rawai)7 หมู่บ้าน
      8.กะรน(Karon)4 หมู่บ้าน
      แผนที่ตำบล

      การปกครองส่วนท้องถิ่น[แก้]

      ท้องที่อำเภอเมืองภูเก็ตประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 7 แห่ง ได้แก่

      หน่วยกู้ภัย[แก้]

      • มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต (กู้ภัยกุศลธรรม)
      • มูลนิธิภูเก็ตร่วมใจกู้ภัย (กู้ภัยภูเก็ต) ที่ตั้ง 10/11 ม.5 ซ.ตาเอียด(เจ้าฟ้า6) ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83130 โทร.076-283346-7 (เดิมสำนักงานตั้งอยู่ ณ วัดนาคาราม ต.วิชิต)

      อ้างอิง[แก้] "พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนนามจังหวัดและอำเภอบางแห่ง พุทธศักราช ๒๔๘๑"ราชกิจจานุเบกษา (ใน Thai) 55 (0 ก): 658. 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481.                           

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น